วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ผลทดสอบชี้ LG G4 ถอดซ่อมง่ายสุดในบรรดาสมาร์ทโฟน Android และ พ่วงตำแหน่งผลโหวตกล้องดีที่สุดในตลาด

หลังจากเปิดตัวมาได้สักพักใหญ่ LG G4 ก็ได้ฤกษ์ถูกรื้อแงะเครื่องในออกมาเชยชมกันบ้าง ซึ่งคราวนี้แม้ไม่ใช่ทีมจอมคุ้ยอย่าง iFixit แต่ก็สามารถระบุขอสรุปได้ว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่ถอดชิ้นส่วนมาซ่อมง่ายที่สุด


ทั้งนี้ ทีมงานที่ทำการทดสอบถอดฝาหลังเครื่อง รวมทั้งชิ้นส่วนภายใน พบว่า LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่ช่างซ่อมมือถือลงความเห็นว่าถอดประกอบออกมาซ่อมได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวท็อปของฝั่ง Android ทุกตัวในตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้ LG เองก็มักจะถูกพูดถึงในเชิงบวกอยู่เสมอกับประเด็นดังกล่าว

แม้ว่าในภาพรวมตัวแผลวงจรของเครื่องจะถูกออกแบบมาวางให้เห็นได้ชัดตั้งแต่เปิดฝาหลังมา แต่พวกเขาก็จัดวางชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะการวางระบบสายไฟก็ไม่มีส่วนที่จะทำให้มีความยุ่งยาก ถือได้ว่าเป็นงานที่ทำได้ประณีตมาก ซึ่งผู้ใช้งาน G4 วางใจได้เลยว่าหากเจอปัญหา ก็จะไม่เจอค่าซ่อมหฤโหดจากการต้องรื้อซ่อมชิ้นส่วนบนวงจรที่ซับซ้อนครับ


LG G4 camera test vs Samsung Galaxy S6, Apple iPhone 6, HTC One M9, and more





ที่มาค่ะ นางพญาเม่า

http://www.beartai.com/news/mobilenews/48749

http://www.phonearena.com/news/LG-G4-camera-test-vs-Samsung-Galaxy-S6-Apple-iPhone-6-HTC-One-M9-and-more_id68815

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

Xiaomi ค่ายมือถืออันดับ 1 ของจีน เปิดตัว Xiaomi Mi4 ในประเทศไทย ราคา 10,990 บาทในงาน Thailand Mobile EXPO

Xiaomi ค่ายมือถืออันดับ 1 ของจีน เปิดตัว Xiaomi  Mi4 ในประเทศไทย ราคา 10,990 บาทในงาน Thailand Mobile EXPO



หลังจากให้ตั้งตารอกันมาแสนนาน วันนี้มีข่าวดีสำหรับคนที่อยากใช้สมาร์ทโฟนจาก Xiaomi เครื่องศูนย์ เพราะมีดีลเลอร์นำ Xiaomi Mi4 รุ่นเกือบท็อปในราคาเบาๆ เพียง 10,990 เท่านั้น
Xiaomi Mi 4 เปิดตัวไปตั้งแต่กลางปีก่อน แต่สเปคจนถึงตอนนี้ก็ยังนับว่าแรงเอาเรื่อง ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมร่วมกับกระจก สเปคหลักๆ คือ Snapdragon 801 หน้าจอ 5" และแรม 3GB (สเปคเต็ม) โดยรุ่นที่เอามาขายในประเทศไทยจะเป็นรุ่น 16GB ครับ
สำหรับใครที่สนใจ ลองไปดูกันได้ที่งาน TME วันที่ 7-10 พฤษภาคมนี้

สเปกอย่างเป็นทางการมีดังต่อไปนี้ครับชิปเซ็ต Snapgradon 801 ควอดคอร์ความถี่ 2.5 GHz
แรม 3 GB
หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1080p Full HD
กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
แบตเตอร์รี่ 3080 mAh
ความจุ 16/64 GB โดยเป็น eMMC 5.0 อ่านเร็วเพิ่มขึ้น 100% และเขียนเร็วเพิ่มขึ้น 50%
รอม MiUi v6
หนัก 146 กรัม




ดีลเลอร์ผู้นำเข้า
บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด
ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1997 โดย คุณจิรศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท ซึ่งในขณะนั้น บริษัทฯ ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมือถือ และวิทยุสื่อสาร (Walky-Talky) เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่สำหรับมือถือที่ผลิตและส่งให้กับ เจมาร์ท ภายใต้แบรนด์ S-Tech โดยเฉพาะ ต่อมาในปี 2000 บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายแฟลชไดร์ฟยี่ห้อ “TREK” อย่างเป็นทางการ ซึ่ง “TREK” ถือเป็นบริษัทที่ผลิตแฟลชไดร์ฟเป็นรายแรกของโลก

ในปี 2007 บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสทางการตลาดและการเติบโตในส่วนของผลิตภัณฑ์ไอทีมากขึ้น จึงได้มีการริเริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดไอทีเพิ่มเติม โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภท Graphic Card, Motherboard ภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิ Gigabyte, Sparkle, HIS, Sapphire, MSI, Palit และ Biostar หลังจากนั้นบริษัทฯ ก็ได้มีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่นๆ อาทิ Printer Product, LCD & LED Monitor, Desktop & Notebook, Supply Product และ Accessories Product ในปี 2009 และจัดจำหน่ายมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 108 ล้านบาท

ในส่วนของยอดขายทางบริษัทฯ สามารถทำยอดขายในปี 2011 เพิ่มขึ้นจากปี 2010 ถึง 30% โดยมีมูลค่ายอดขายรวมทั้งสิ้น 1.3 พันล้านบาท และในปี 2012 ยอดขายนับถึงไตรมาสที่ 3 สูงถึง 1.7 พันล้านบาท โดยมีผลิตภัณฑ์ทางด้านกราฟิกการ์ดของ Gigabyte เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนให้ยอดขายของบริษัทฯ มีตัวเลขที่สูงขึ้น

ในด้านช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น ถือว่าบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมตลาดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยอาศัยการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และ ศูนย์ไอทีต่างๆ รวมมากกว่า 500 ร้านค้า ที่ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ในแต่ละจังหวัด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวโครงการ CYBER SPORT BY STREK ขึ้น เมื่อเดือนสิงหาคม 2012 ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ให้บริการความช่วยเหลือในด้านการลงทุน การให้คำปรึกษา การบริการ แก่ผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ต ทั่วประเทศ เพื่อให้ร้านอินเตอร์เน็ตสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีมาตรฐาน และเหมาะสมในการลงทุน

จากประสบการณ์และการเติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในปี 2014 ในการขยายศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ทางตลาดในปัจจุบัน รวมไปถึงการบริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งในด้านการกระจายสินค้า และการบริการหลังการขาย โดย บริษัทฯ ได้ย้ายที่ทำการสำนักงาน รวมถึงคลังสินค้าไปยังที่ทำการใหม่ บนถนนเกษตร-นวมินทร์ ด้วยพื้นที่กว่า 5 ไร่ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท และสอดคล้องกับ AEC ที่จะเริ่มขึ้นในปี 2015

ในวันนี้ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัท ที่ประสบความสำเร็จในด้านของธุรกิจอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านสินค้า การบริการ และช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งทางบริษัท เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าของบริษัท ได้อย่างดีแน่นอน
ที่มา blognone  และ

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558

[บทความ] 10 สิ่งที่ Samsung Galaxy S6 สามารถทำได้ แต่ iPhone 6 ทำไม่ได้



[บทความ] 10 สิ่งที่ Samsung Galaxy S6 สามารถทำได้ แต่ iPhone 6 ทำไม่ได้

พอดีผมไปเจอบทความน่าสนใจจากเวป http://bgr.com/2015/03/27/galaxy-s6-vs-iphone-6-features/ ที่เขาเขียนเปรียบเทียบระหว่าง Galaxy S6 กับ iPhone ว่ามีฟังค์ชั่นอะไรที่ S6 มีแต่ ไอโฟนไม่มี สำหรับผมดูอวยซัมซุงไปนิดนึง แต่คิดว่าน่าสนใจอยู่ เพราะ S6 กำลังจะออก เลยเอามาสรุปให้ชาวพันทิปได้ลองอ่านกันคับ (เผื่อสาวกจะได้มาคุยกันว่าจริงหรือไม่จริง)

1.โหมดประหยัดพลังงาน ของ S6 อันแรกคือแบตอึดกว่าเดิม แม้แบตจะเหลืออยู่ 10 % มันจะเปลี่ยนเป็นโหมดประหยัดพลังงานให้ออโต้ อีกอันคือชาร์จทิ้งไว้ 10 นาที สามารถใช้งานต่อได้อีก 4 ชั่วโมง อันนี้ผมว่าน่าลองนะว่าจะเจ๋งจริงหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะตรงกับเรื่องจริงของใครหลายคน ผมและคนนึง



2.Wireless Charging หรือเรียกอีกอย่างว่าชาร์จแบตแบบไร้สายเนี่ยแหละ ที่ S6 เพิ่มออกมาเปิดตัวว่าเขาสามารถใช้ wireless charging ได้ แต่รู้สึกว่าต้องซื้อแยกมั้งสำหรับไอ้ตัวชาต



3.ทำหลายได้อย่างในเวลาเดียว S6 นั้นสามารถเปิดแอพที่ Home Screen ได้หลายๆ แอพพร้อมกัน แต่ IPhone กลับทำได้แค่ทีละแอพเท่านั้น



4.หน้าจอดับก็ยังทำงาน S6 สามารถบอกวันที่ เวลา และสภาพอากาศได้ด้วย แม้ว่าหน้าจอจะถูกล็อคไว้อยู่



5.แค่เห็นไฟก็รู้ว่าใครโทรมา ถ้าบังเอิญต้องวาง S6 แบบคว่ำหน้าไว้บนโต๊ะ เราก็จะรู้ได้ว่าใครโทรมาหา เพราะแทบสีที่เราเซ็ตไว้มันจะโชว์ตรงขอบจอของเครื่อง ซึ่งเป็นลูกเล่นใหม่ของขอบโค้งของเขา



6.ชำระเงินผ่านร้าน Apple Pay จะใช้ได้กับร้านค้าที่รองรับ NFC ของ Apple Pay เท่านั้นคับ แต่ของ Samsung Pay สามารถจ่ายเงินผ่านร้านค้าต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น



7.จับภาพการเคลื่อนไหวอย่างว่องไว แม้ว่าวัตถุที่อยู่ตรงหน้าจะเคลื่อนที่เร็วแค่ไหน S6 สามารถดักจับภาพได้ทันที และได้ภาพที่คมชัดพอสมควรเลยนะ ที่ผมดูจากรีวิวที่อื่น




8.ลัดเข้าโหมดกล้องอย่างรวดเร็ว เมื่อต้องการถ่ายรูปด้วย S6 ผู้ใช้สามารถเปิดกล้องขึ้นมาด้วยการกดปุ่ม Home สองครั้งติดกัน ซึ่ง S6 ใช้เวลาเพียง 0.7 วินาที ก็ถ่ายรูปได้เลย แต่ผมว่า ข้อนี้เอาเข้าจิงๆ ไอโฟนก็เข้ากล้องได้เร็วพอๆ กันนะ




9.เป็นรีโมทควบคุม คงคุ้นหูกันบ้างนะคับกับอุปกรณ์ IR blaster ที่ผลิตมากับ S6 มันก็คือ รีโมทดีๆ นั้นเอา คือใช้เป็นรีโมท เปลี่ยนช่อง เพิ่ม-ลดเสียง หรือใช้กับสมาร์ททีวีได้เลยครับ แต่ต้องมีแอพก่อนนะจ๊ะถึงจะใช้ด้วยกันได้ ส่วน IPhone 6 ต้องซื้อเสริมเท่านั้นคับ



10. ดูแลหัวใจ มันจะมากไปแล้วเป็นโทรศัพท์แท้ๆ แต่กลับดูแลหัวใจเจ้าของเครื่องได้ อันนี้เป็นฟีเจอร์อีกตัวของ S6 ที่เจ๋งเหมือนกัน ในขณะที่เราใช้มันสามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจได้ด้วย



เป็นไงมั่งคับ 10 ข้ออ่านแล้ว คิดว่าดีกว่ากันจิงๆ มั้ย? อันนี้ผมแปลมาคร่าวๆ นะ ยังไงก้มาแชร์กันต่อกันนะคับ ว่าคิดว่ายังไงกัน

ที่มา สมาชิกหมายเลข 1013184   

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

กูเกิลออกรายงานความปลอดภัยของ Android ประจำปี 2014 เผยแอพอันตรายลดลงเกือบครึ่ง


กูเกิลออกรายงานความปลอดภัยของ Android ประจำปี 2014 เผยแอพอันตรายลดลงเกือบครึ่ง

กูเกิลออกรายงานความปลอดภัยของ Android ประจำปี 2014 มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

30 บริการที่น่าสนใจของ Google ที่สามารถใฃ้ได้ฟรีๆ

30 บริการที่น่าสนใจของ Google ที่สามารถใฃ้ได้ฟรีๆ


บทความแนะนำให้รู้จักบริการต่างๆ ของ Google ที่มีประโยชน์ในการใช้งานอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีอีกมากมายนอกเหนือจากการค้นหาข้อมูลที่คนไทยเรานิยมใช้กันมาก เพื่อที่เราจะได้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างคุ้มค่า สามารถค้นหาสิ่งที่เราต้องการ สินค้าหรือบริการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบฟีเจอร์กันสั่น (OIS) ของ Galaxy S6 กับ iPhone 6 มาดูว่าใครเจ๋งกว่ากัน !

เปรียบเทียบฟีเจอร์กันสั่น (OIS) ของ Galaxy S6 กับ iPhone 6 มาดูว่าใครเจ๋งกว่ากัน !

เว็บต่างประเทศที่มีโอกาสไปร่วมงานแถลงข่าว ได้ทดสอบฟีเจอร์กล้องของ Galaxy S6 เทียบกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในส่วนของระบบกันสั่นหรือ optical image stabilization (OIS) และถ่ายวิดีโอมาเผยแพร่ครับ
เริ่มจาก Phandroid ใช้ iPhone 6 รุ่นปกติ (ซึ่งไม่มี OIS) ถ่ายเทียบกับ Galaxy S6 บนฉากทดสอบ (เข้าใจว่าเป็นของซัมซุง) เห็นผลต่างกันอย่างชัดเจน
แต่ถ้าจะเอาการทดสอบแบบแฟร์ๆ ต้องดูของ PhoneArena ที่ใช้ iPhone 6 Plus (มี OIS) ถ่ายฉากเดียวกันเทียบกับ Galaxy S6 edge
ผลก็ยังออกมาว่า Galaxy S6 edge ดีกว่า
ทั้งนี้ต้องแจ้งว่าฟีเจอร์ OIS เป็นแค่ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลมากมาย ต้องรอดูหลังสินค้าวางขายและมีริวิวเปรียบเทียบอย่างละเอียดตามมาอีกทีหนึ่งนะครับ
ที่มา - BGR

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ความแตกต่างของ Mobile Payment ระหว่าง Android และ iOS

ความแตกต่างของ Mobile Payment ระหว่าง Android และ iOS

ทั้ง Google Wallet และ Apple Pay นั้นต่างก็เป็นผลิตภัณฑ์อีกอย่างหนึ่งของทั้ง Google และ ของทาง Apple โดยหลายๆ ท่านอาจจะไม่รู้จักว่า Mobile Payment นั้นคืออะไร งั้นเราไปดูกันเลยครับ
Mobile Payment เป็นระบบการชำระเงินผ่านทางอุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์ของเรานั้นเองครับ โดยในการพัฒนานั้นจะใช้งานของตัว NFC ภายในตัวเครื่อง โดยตัว NFC ทำการเชื่อมต่อเข้ากับแอพพิเคชั่นต่างๆ อย่าง Google Wallet และ Apple Pay โดยตรงเพื่อทำการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิตนั้นเองครับ ซึ่งถือว่าเป็นการชำระเงินอีกหนึ่งช่องทางที่ถือว่าอำนวยความสะดวกแก่เรามากครับ โดยในวันนี้เราจะไปดูกันครับว่าระบบ Mobile Payment ของทาง Android อย่าง Google Wallet และ บน iOS อย่าง Apple Pay นั้นตัวใหนจะดีกว่ากันครับ

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ความแตกต่างของการ Developer ระหว่าง Android และ iOS

ความแตกต่างของการ Developer ระหว่าง Android และ iOS

ผลสรุปของตัวระบบปฏิบัติการที่คนใช้งานมากที่สุดของปี 2014 ที่ผ่านมานั้น นั้นนับวาเป็นปีทองของระบบปฏิบัติการของทาง Android เป็นอย่างมากเลยครับ เพราะเป็นระบบปฏิบัติการที่คนใช้งานมากที่สุดในโลก รองลงมาก็คือ iOS นั้นเองครับ โดยผลสรุปนี้ยังได้บ่งชี้ให้เหล่า Developer ทั่วโลกนั้นได้รู้อีกว่าเราควรพัฒนาแอพพิเคชั่นหรือเกมส์บนระบปฏิบัติการใดดีกว่ากันระหว่างระบบปฏิบัติการของทาง Android หรือ iOS นั้นเองครับ ซึ่งหากเพื่อนคนใหนที่เป็น Developer อยู่ หรือ คนใหนกำลังเริ่มต้นมาเป็น Mobile Developer นั้น และอยากรู้ว่าจะเริ่ม  Develop บน Android หรือ iOS ก่อนดีนั้น อย่าพึ่งตัดสินใจจนกว่าจะอ่านบทความนี้ก่อนครับ

ความแตกต่างทางด้านของ Battery Life ระหว่าง Android และ iOS

ความแตกต่างทางด้านของ Battery Life ระหว่าง Android และ iOS

Battery บนโทรศัพท์มือถือของเรานั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากครับ เพราะถ้าหากโทรศัพท์มือถือของเรานั้นมีแบตเตอรี่ที่หมดไวเกินนั้น ก็อาจจะส่งผลต่างๆ ตามมาได้ครับ ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ในบางครั้งรถยนต์เราอาจจะเกิดเสียอยู่กลางทางระหว่างกลับบ้าน และ แบตเตอรี่ภายในโทรศัพท์มือถือของเรานั้นก็เกือบจะหมดแล้ว โดยในสถานการณ์แบบนี้ถือว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะเราไม่สามารถติดต่อใครๆ ได้เลยครับ หรือ ในบางคนนั้นอาจจะชอบเล่นอินเตอร์เน็ต และ เมือถึงเวลาที่เราจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับใคร แบตเตอรรี่ของเราเกิดหมดก่อน นั้นเอง โดยในวันนี้เราจะไปดูกันครับว่าทั้ง Android และ iOS นั้น ระบบใหนจะมี Battery Life ที่ดีกว่ากัน

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ความแตกต่างทางด้าน Security ระหว่าง Android และ iOS

ความแตกต่างทางด้าน Security ระหว่าง Android และ iOS

ซึ่งแน่นอนครับว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนี้นั้นสามารถใช้งานได้มากมายหลายแบบมากครับ ทั้งการเล่นเกมส์ การจ่ายเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือ Mobile Payment การจัดการบัญชีธนาคารผ่านทางแอพพิเคชั่น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้นั้นต้องบอกเลยครับว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความปลอดภัยอย่างสูง เพราะทั้งหมดนี้นั้นล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินของเราทั้งนั้นครับ ซึ่งหากเครื่องโทรศัพท์ของเรานั้นเกิดมีไวรัสที่ทำการดักจับข้อมูลทางการเงินของเราอยู่นั้น ต้องอกเลยครับว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่เงินภายในบัญชีของคุณอาจจะหายไปได้ แบบที่เราไม่รู้ตัวเลยครับ โดยในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันครับว่าทั้งระบบปฏิบัติการแบบ Android และ iOS นั้น ระบบใดจะมีระบบความที่ดีกว่ากัน